:: เที่ยวพัทยาสุดชิลล์ พักสยามเบย์วิว (The Bayview Pattaya) ทริปนี้กินตัวแตก! ::

สวัสดีค่ะทุกๆคน วันนี้วาจะพาไปเที่ยวพัทยากันค่ะ เมื่อต้นเดือนเมษาวาไปพัทยามา ตามคำชวนของสยามเบย์วิว หรือ The Bayview Hotel Pattaya นี่ก็เพิ่งรู้ว่า เค้าเป็นเครือโรงแรมเดียวกับ สุโกศล สยาม เบย์ชอร์ แล้วก็ Wave ด้วยค่ะ ซึ่งถ้าใครเคยได้ยินโรงแรมเวฟ สบามเบย์วิว ก็ตั้งอยู่ที่ หลังโรงแรมเวฟ นั่นเองค่ะ มาดูเรื่องทำเลกันก่อน วาว่าทำเลของสยามเบย์วิว คือดีงาม อยู่ใกล้ๆ เซ็นทรัลเลย คือเดินไปได้ นิดเดียวเอง ถ้าขับรถมา ก็เข้าได้จากทางพัทยาสายสองเลยค่ะ  แถมเข้าทางหน้าหาดก็ได้เช่นกัน โดยการเดินทะลุเข้าทางโรงแรมเวฟ (รถเข้าไม่ได้นะคะ)


ได้รู้มาว่าโรงแรมสยามเบย์วิว เป็นโรงแรมที่ค่อนข้างมีอายุพอสมควร แบบอยู่คู่พัทยามายาวนาน ตึกด้านนอกก็จะดูธรรมดาๆไม่ได้หวือหวาอะไรค่ะ แต่พอก้าวเข้าไปที่ล๊อบบี้แล้ว ความรู้สึกก็เปลี่ยน เพราะว่าล๊อบบี้สวยมากๆค่ะ คุมโทนสีฟ้า ขาว ดูหรูหรา สะอาดตามากๆเลยค่ะ แถมมีที่นั่งสบายๆเยอะมาก คือสามารถมานั่งชิลล์ๆได้เลยล่ะ





ที่นี่จะต้อนรับด้วยน้ำหวานเปลี่ยนไปเรื่อยๆ พร้อมกับผ้าเย็น และมาการอง (การตกแต่งอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย) มาการองหวานไปนิด แต่เนื้อดีอร่อยเลยค่ะ


ห้องพักของวาวันนี้ อยู่ที่ชั้น 5 ขึ้นลิฟท์มาถึงเลย ลิฟท์ค่อนข้างเล็กนะคะ เข้าได้ไม่กี่คน แต่ก็ว่องไวดี ไม่อืดช้าอะไรมากมาย พอเปิดประตูเข้าห้องปุ๊บ กรี๊ดดดดดดดด


คือกรี๊ดจริงๆนะ ห้องสวยมากกกกกกกก เลยค่ะ ห้องที่วาพัก คือ DELUXE SEA VIEW เป็น type ที่มองเห็นวิวทะเลด้วย โทนสีเค้ามีหลายสี สำหรับห้อง type นี้ วาได้ห้องสีฟ้า สดใส สวยมากๆ คือ ชอบจริงๆ ได้อารมณ์มาทะเลสุดๆ มีระเบียงเล็กๆ เปิดออกไปนั่งเล่นได้ด้วยค่ะ แต่วาไม่ค่อยได้ออกไปเพราะร้อน 555 คือเพราะมีเดย์เบดนอนชมวิวเรือแล่นไปมาที่ทะเล นอนตรงนี้ดีกว่า  เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมแหล่ะ


สิ่งอำนวยความสะดวก

ผ้านวม และหมอนนุ่มๆ
เสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าสำหรับใส่ภายในห้องพัก (สลิปเปอร์)
มินิบาร์
น้ำดื่มฟรี 2 ขวด
เครื่องปรับอากาศที่ท่านสามารถปรับอุณหภูมิได้เอง
เตียงเสริม/เตียงเด็ก (เมื่อลูกค้าต้องการ)
ผ้าม่านกันแสง
บริการทำความสะอาดทุกวัน
เครื่องชงชา กาแฟภายในห้อง
รับความบันเทิงจากเคเบิ้ลทีวีและช่องสัญญาณดาวเทียมจากต่างประเทศ
บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง
ตู้นิรภัยส่วนตัว
โต๊ะเขียนหนังสือ และโคมไฟ
วิทยุ และนาฬิกาปลุก
อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงทั้งแบบWI-FIและ LAN
มีบริการโทรศัพท์สำหรับโทรภายในประเทศและต่างประเทศได้โดยตรง
ตู้เสื้อผ้าพร้อมไม้แขวนเสื้อ


บรรยากาศห้องโทนสีสว่าง ไม่ทึบดีค่ะ ของตกแต่ง น่ารัก กุ๊กกิ๊ก เตียงนอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม คุณภาพดี นอนสบายมาก หลับไม่อยากจะลุกตื่นเลยค่ะ วาเป็นคนเซนสิทีฟกับเตียงมาก เพราะหลังไม่ดี นอนพื้นก็ปวด นุ่มไปก็ปวด แข็งไปก็ปวด อันนี้ เลิศ ไม่มีปัญหาใดใดค่ะ

ในห้องมี ทีวี โต๊ะทำงาน แบ่งสัดส่วนลงตัว ไม่อึดอัด ครบครัน มีพวกตู้เย็น และส่วนตู้เสื้อผ้า ที่ไปอัดกันด้านหน้าประตู แต่ก็ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไรค่ะ ถือว่า พอเหมาะลงตัวดีล่ะ



ที่น่ารักคือ ห้องน้ำ ค่ะ จริงๆมันค่อนข้างจะเล็กนะ มีอ่างล้างหน้า โซนอาบน้ำ แล้วก็โถสุขภัณฑ์ แคบแต่ลงตัว เค้าใช้ลูกเล่นคือมีหน้าต่างเล็กๆ เปิดได้ ทำให้ห้องน้ำดูโปร่งๆขึ้นอีกนิดนึงค่ะ แต่ข้อเสียที่เจอในห้องน้ำก็คือ ไม่มีสายฉีดชำระนั่นเองค่ะ แต่กระดาษทิชชู่ในห้องน้ำนุ่มมากนะ เค้าใช้ของดีเชียวล่ะ





ในห้องมี welcome fruites ให้ทานด้วย อลังมาก อิ่มเลยค่ะ มีชากาแฟฟรี ส่วนมินิบาร์เสียเงินนะคะ เค้าจะมีสติ๊กเกอร์ ติดเอาไว้เลย เผื่อคนแอบทานแล้วซื้อของ 7-11 มาแทน ไม่ได้นะเออ ... อุ๊ย วาไม่เคยทำนะ 5555555


เอาล่ะค่ะ ไปดูห้องแบบอื่นกันบ้างโน๊ะ วันนี้ได้มีโอกาสไปดูห้องอื่นๆอีก 2-3 ห้องค่ะ เริ่มกันที่ garden wing เป็นอีกตึกนึงที่แยกออกมา เป็นตึก 3 ชั้น ที่มองเห็นจากระเบียงห้องพักวามะกี้นี่เอง ห้องที่ไปดู คือ Deluxe Garden Wing ค่ะ





ห้องพักจริงๆจะหน้าตาคล้ายกัน แตกต่างกันแค่ สีสรร การตกแต่ง และวิวที่มองเห็นจากหน้าต่างค่ะ
ห้องนี้ มองลงไปเห็นสระว่ายน้ำส่วนกลางเลยค่ะ บรรยากาศโดยรวม เหมือนห้อง type ที่วาพักเลย ต่างกันแค่วิวจริงๆค่ะ



ห้องต่อไป คือ Siam Suites เป็นห้องแบบที่ ค่อนข้างใหญ่ มีส่วน ห้องนั่งเล่น แยกออกมาจากห้องนอน กว้างขวางมากๆ เป็นห้องที่กว้างไปตามทางยาวค่ะ




ห้องนี้จะมีห้องน้ำที่เหมือนๆกับห้อง Deluxe เลยค่ะ ไม่มีอ่างอาบน้ำนะ ห้องมีบริเวณในส่วนของห้องนั่งเล่นเป็นสัดส่วนดีค่ะ ห้องนี้มีวิวที่กว้างมากๆอาจจะเห็นบริเวณโดยรอบๆ ขึ้นอยู่กับว่า ห้องอยู่ฝั่งไหนด้วยค่ะ





ต่อมา คือ ห้องใหญ่ที่สุด ก็คือ ห้อง Deluxe Suites ค่ะ ห้องนี้ จะเห็นวิวทะเลกว้างมากๆ เป็นห้องที่มีห้องโถงกว้างมากๆเลย มีห้องน้ำ 2 ห้อง มีส่วนของ ห้องทานอาหาร ตู้เย็นขนาดใหญ่ แล้วก็มีส่วนของห้องนอน หรูหรา อยู่ด้านในค่ะ



ในห้องนี้เราได้เรียนรู้การพับผ้าขนหนู ให้เป็นรูปสัตว์ด้วยค่ะ มีแม่บ้านมาสอนแบบใกล้ชิด เค้าเตรียมให้ได้ลองทำกันดู คือ ก็ไม่ได้ยากนะ แต่ ทำให้เนี๊ยบๆเหมือนเค้าก็ไม่ได้ง่ายเลยค่ะ คือต้องเป็นกุลสตรีพับผ้า เรียบร้อย ซึ่งวาไม่ใช่เลยอ่ะ 55555



นอกจากพับผ้าขนหนู ก็ได้ไปลองแกะสลักดูด้วยค่ะ ที่นี่เค้าจะมีครอสสอน ชาวต่างชาติจะฮิตมากๆเลย อยากมาเรียนรู้การแกะสลักสวยๆกัน ได้ยินครั้งแรกก็โอ้ว ดิช้าน จะทำได้ไหมเนี่ย แต่ก็จะลองทำดูค่ะ




เค้าให้ลองแกะสลักดอกไม้ จาก หัวไชเท้า ถามว่าออกมาเป็นรูปอะไรไม๊ ..... อย่าให้เล่าเลยค่ะ 555
ก้อนอะไรไม่รู้ ปกติ วิชาคหกรรม คือ เกรด 4 เพราะแม่ทำให้หมดเลย กิจกรรม ชาววังแบบนี้ วาขอบายยยยย ตอนแรกนึกว่าจะง่าย แต่หัววาไม่ไปจริงๆอ่ะ เรื่องแบบนี้ยอม 5555 คนอื่นก็แกะออกมาสวยดีค่ะ เก่งกันจัง แต่ก็สนุกดีค่ะ ที่ได้ลองทำอะไรเพลินๆ

หิวละไปทานข้าวกันดีกว่า

วันนี้ได้ทานอาหารเป็นครอสๆจากเบย์วิวที่นำมาต้อนรับพวกเราค่ะ ห้องอาหารจะมีอยู่ห้องเดียว ทานข้าวเช้ากลางวันเย็นเลย ชื่อว่า การ์เด้น เทอเรส คาเฟ่  ขนมปังที่นี่อร่อยมากๆเสริฟมาก่อนเลย วากินขนมปังแบบไม่เกรงใจใครเลย น่าอายจัง 555555 ส่วนอาหารก็ถือว่ารสถูกปากคนไทยค่ะ







สำหรับใครที่อยากสัมผัสธรรมชาติ โดยการเดินไปทะเล ก็สามารถเดินไปได้ง่ายมากๆ เพราะโรงแรมนี้อยู่หลัง โรงแรม wave สามารถเดินทะลุทางเดินเล็กๆ ข้ามโรงแรมเวฟ ไปที่ ถนนริมชายกาดได้เลยค่ะ สะดวกมากๆเลยล่ะ แต่วาไม่ได้เดินไป ตอนกลางวันนะ อิ่มแล้วก็นอนไง 5555 ได้ออกไปอีกที คือมืดพอดี เดินออกไป เลี้ยวซ้าย ก็ถึง 7-11 แล้วค่ะ ถ้าใครติดซื้อขนม ที่ ร้านสะดวกซื้อนะ ใกล้เลย หรือออกมาขึ้นรถสองแถว ไปที่ Walking Street ก็ง่ายๆค่ะ 10 บาทตลอดสาย นั่งแปปเดียวก็ถึงค่ะ



อ้อ โรงแรมอยู่ใกล้ เซ็นทรัล พัทยา มากๆเลย ใครอยากไปเที่ยวห้าง ตากแอร์เย็นๆก็เดินเลี้ยวขวาจากโรงแรมเวฟเดินไปแปปเดียวก็ถึงแล้วค่ะ ถือว่าทำเลโรงแรมดีมากๆเลยล่ะ


มาถึงมื้อเย็นที่รอคอยยยยยย ตอนเย็น จะมี Buffet ค่ะ เป็น Buffet Seafood ที่สามารถ เลือกหยิบ ปู กุ้ง หมึก สดๆไปให้เค้าย่างให้ได้ คือดีมากกกก กีดร้องงง วาชอบซีฟู๊ดมากๆ แฮปปี้มากๆเลยค่ะ จริงๆ การหาซีฟู๊ดทานใน พัทยา ก็ราคาประมาณนึงนะ ต้องออกเดินทางไปจากโรงแรมอีก แต่อันนี้ มีที่รงแรมเลย ในราคาหัวละ .... บาท ถือว่าดีงามมากๆค่ะ อาหาร สด น้ำจิ้มอร่อย เลิศสุดๆ






นอกจากนี้ ใน Line Buffet ยังมีอาหาร international ให้เลือกทานหลายอย่าง รวมไปถึง ขนมต่างๆด้วยค่ะ อาหารค่อนข้างรสคนไทย รสจัด และอร่อย อิ่มจนเดินกลับห้องไม่ไหวเลยอ่ะ 5555
















ตอนเช้า ของทุกวัน จะมีพระเข้ามาในโรงแรม ให้ใส่บาตร คือ เราสามารถจองได้กับ front เลยค่ะ
มีชุดใส่บาตรขายครบเลยไม่ต้องลำบากหาเอง วาว่าจะตื่นมาใส่บาตรนะ แต่ไม่ตื่นไง อดใส่บาตรเลย พระมาถึงโรงแรมแท้ๆ ใครที่ไม่ค่อยได้ใส่บาตร แล้วมาพักโรงแรมนี้ ก็ใช้โอกาสนี้ ใส่บาตรกันได้นะคะ อย่าเอาวาเป็นตัวอย่างค่ะ 555


อาหารเช้า ของที่นี่ เป็น Buffet ค่ะ วันนี้เราก็"ด้เห็นว่า แขกเข้าพักเยอะมาก เพราะห้องอาหารค่อนข้างเต็มทีเดียว เรื่องของกิน ก็อู้ฟู่ และมีคุณภาพค่ะ แอบชอบ การจัดเป็นสเตชั่นต่างๆ มีทั้ง กาแฟ สเตชั่นไข่ โจ๊ก คือ ครบครันมากจริงๆ อาหารเช้าที่นี่ ใช้ของคุณภาพดีเลยนะ ไส้กรอกคือ ดี ไม่ใช่ไส้กรอกแป้งๆแน่นอน วันนี้ทานได้ไม่มาก เพราะเมื่อคืนอิ่มมากแต่ก็มีความสุขกับอาหารเช้าที่นี่ค่ะ








ไม่นานนักก็ได้เวลาอาหารเที่ยงค่ะ ทริปนี้ ทริปกินตัวแตกมากๆเลย แต่ก็ดี ที่เราได้ลองทานอาหารของโรงแรม ทุกมื้อเลย สรุปแล้ว วาว่า ที่นี่อาหารอร่อยมาก ราคาก็ไม่โหดร้ายเกินไป ถ้ามาพักผ่อน สั่งอาหารทานไม่ต้องออกไปไหนก็ถือว่าโออยู่นะคะ อาหารไทย คือดีงามมาก จานใหญ่ คุณภาพดี อร่อย













วันนี้เราต้องเช็คเอาท์จากที่นี่แล้วค่ะ ก็มีแวะไปเที่ยวที่ เขาชีจรรย์ วาไม่เคยมาเลยนะ ปกติไปพัทยาแบบ รถโดยสาร เลยไม่เคยมาเที่ยวเลย การเดินทาง คือ ขับรถเลยพัทยาไปนิดนึง พอไปถึงก็จะแบ่งเป็นส่วนๆ จะมีวัด มีเจดีย์ มีเขาที่ยิงเลเซอร์เป็นรูปพระ และ มีพิพิธภัณฑ์จีนที่อลังการงานสร้างมากๆ ไม่รู้เคยไปกันรึเปล่านะคะ คือวันที่วาไปอ่ะ ลูกสาวเจ้าของ (หรือเจ้าของนั่นแหล่ะ) มาต้องรัน และให้ความรู้ พาเดินชม แบบเอกคลูซีฟ พร้อมเล่าประวัติ ที่ได้ยินแล้วขนลุกซู่เลยอ่ะ ในนั้นมีแต่ รูปปั้น ของแท้ ของจริง ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากจีนเลย แล้วที่เห็นดูใหม่ขนาดนี้ เพราะมีการดูแลที่ดีมากๆ รูปวาด ภาพเก่าๆ รูปปั้น บางอันมีอายุร้อยกว่าปี บอกตรงๆถ้ามาดูเองคงคิดว่า ไม่มีอะไรเลย แต่ถ้าได้ลอง ศึกษา และอ่าน แต่ละอัน จะรู้เลยว่า ที่นี่ไม่ธรรมดา





วันนี้เที่ยวกันทั้งวันก็จบทริปนี้กันแบบเต็มอิ่มเลยค่ะ ขอบคุณทาง เบย์วิว และเครือโรงแรม Sukosol ที่ชวนวาไปพักผ่อนในทริปนี้ด้วยค่ะในเครือโรงแรมนี้ มีที่พักหลายโรงแรมมาก แวะไปดูเพิ่มเติมได้ที่


วันนี้ จบการรีวิวเพียงเท่านี้ ทริปหน้าวาจะไปไหนอีก จะมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะ ไปละค่ะ บ๊าย บายยยย